สำนักวิจัยและส่งเสริมวิชาการการเกษตร มหาวิทยาลัยแม่โจ้
The Office of Agricultural Research and Extension Maejo University

งานประกวดฟ้อนเล็บ ครั้งที่ 3 วันอาทิตย์ที่ 21 เมษายน 2556 ตั้งแต่เวลา 17.00 น. เป็นต้นไป ณ ข่วงอนุสาวรีย์สามกษัตริย์

Smileดาวโหลดกำหนดการ,กติกา,ใบสมัคร


กำหนดการแข่งขันประกวดฟ้อนเล็บล้านนาไทยครั้งที่ 3
 

วันอาทิตย์ที่  21  เมษายน  2556 

ณ ข่วงอนุสาวรีย์สามกษัตริย์  อำเภอเมือง  จังหวัดเชียงใหม่ 

--------------------------------------------- 

 

เวลา  17.00  น.          ลงทะเบียน

เวลา  18.00  น.          พิธีเปิดการแข่งขันประกวดฟ้อนเล็บล้านนาไทย ครั้งที่ 3

                             กล่าวรายงานโดย...รองศาสตราจารย์ ดร.ยงยุทธ   ข้ามสี่

                                                                 ผู้อำนวยการสำนักวิจัยและส่งเสริมวิชาการการเกษตร

                             กล่าวเปิดงานโดย...ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.จำเนียร  ยศราช

                                                    อธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่โจ้

เวลา  18.30  น.          ดำเนินการแข่งขันประกวดฟ้อนเล็บ 

เวลา  21.30  น.          พิธีมอบรางวัล โดย...ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.จำเนียร  ยศราช

                                                    อธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่โจ้

 

กติกาการประกวดฟ้อนเล็บล้านนาไทย ครั้งที่ 3

วันอาทิตย์ที่ 21 เมษายน 2556  เวลา 17.00 น. เป็นต้นไป 

ณ  ข่วงอนุสาวรีย์สามกษัตริย์  อำเภอเมือง  จังหวัดเชียงใหม่

๑.          ลักษณะการประกวด 

ประกวดฟ้อนเล็บให้ประกวดเป็นคณะ ผู้เข้าประกวดต้องเป็นเพศหญิง จำนวน ๘-12 คน

โดยจะรับสมัครเพียงจำนวน 10 ทีมเท่านั้น

๒.         วิธีการประกวด 

2.1)  การแต่งกายของผู้เข้าประกวด

-  เสื้อ                ใช้เสื้อแขนกระบอก คอกลม หรือคอจีน หรือคอยะวาผ่าอกตลอด

-   ผ้านุ่ง             ใช้ผ้าซิ่นตีนต่อลายขวาง หรือตีนดำ หรือตีนลวด หรือตีนจกแบบมีเชิง หรือผ้าทอยกดอกแบบมีเชิงในตัว (ไม่อนุญาตให้นุ่งผ้าถุงสำเร็จ)

-   ผ้าสไบ           ใช้ผ้าสไบสีพื้น ไม่มีลวดลาย เช่น ผ้าแพรเยื่อไม้ ผ้าต่วน หรือผ้าสไบฟ้อนเมือง ถ้าใช้สไบโปร่งทองต้องนุ่งผ้าซิ่นทอยกดอกมีเชิง (ไม่อนุญาตให้ใช้สไบโปร่งเงิน)

-   ทรงผม           เกล้ามวยผมแบบญี่ปุ่น หรือเกล้ามวยผมแบบพื้นเมืองเหนือ(เกล้าเรียบร้อย หรือชักหงีบ)

-   ดอกไม้           ดอกไม้ประดับมวยผมใช้ดอกกล้วยไม้ (เอื้องผึ้ง เอื้องหลวง) ของสด หรือของเทียม หรือดอกไม้ไหวทอง ไม่อนุญาตให้ใช้ดอกไม้ไหวเงิน)จะมีพวงอุบะก็ได้ แต่ต้องไม่ยาวเกินคางหรือต้นคอ

-   เล็บ               ผู้ฟ้อนทุกคนต้องสวมเล็บมือ

2.2)  ท่าฟ้อน 

          ใช้ท่าฟ้อนเล็บแบบพื้นเมือง เช่น ท่าไหว้ ท่าบิดบัวบาน ท่ายอน ท่าสะบัดจีบ ท่าเชื่อมต่างๆ

2.3)    ระยะเวลาการประกวด 

         ผู้ฟ้อนของแต่ละคณะ จะใช้ท่าฟ้อนแสดงลีลาการฟ้อนต่างๆ เช่น วงกลม ตั้งแถว ฯลฯ      แต่ต้องไม่มีแบบประยุกต์ เช่น ต่อตัว ออกมังกรล่อแก้ว ฯลฯ ใช้เวลาประมาณ 8-10 นาที

2.4)    ดนตรีประกอบ 

          ให้ทางคณะผู้เข้าประกวดจัดเตรียมเพลงลงแผ่นซีดีมาเอง

2.5)    ผู้เข้าร่วมประกวด 

          ผู้เข้าประกวดแต่ละคณะ ต้องไม่ซ้ำกัน

2.6)   คณะกรรมการจัดการประกวด 

                        คณะกรรมการ จะจัดคณะในการฟ้อนประกวด เรียงตามลำดับการมารายงานตัวของ       แต่ละคณะในวันทำการประกวด

2.7)    ผู้เข้าร่วมประกวด 

                        ผู้เข้าประกวดต้องมารายงานตัวต่อคณะกรรมการจัดการประกวด ในวันทำการประกวด    ในวันอาทิตย์ที่  21  เมษายน 2556  เวลา 17.00-18.00 น.

2.8)    การสนับสนุนทีมผู้เข้าประกวด 

          คณะกรรมการการจัดประกวด สนับสนุนให้คณะที่เข้าร่วมประกวด คณะละ 1,000 บาท

๓.          เกณฑ์การตัดสิน (ถือมติคณะกรรมการการตัดสินเป็นที่สิ้นสุด) โดยพิจารณาจากเกณฑ์ดังนี้ 

  1. ความพร้อมของแต่ละคณะ
  2. จังหวะการฟ้อน
  3. ลีลาท่าฟ้อน
  4. มารยาทของผู้ฟ้อน
  5. การแต่งกาย
  6. การตรงต่อเวลา

๔.          รางวัลการประกวด 

รางวัลชนะเลิศอันดับ 1    จำนวน  1  รางวัล           7,000 บาท พร้อมถ้วยรางวัล

รางวัลชนะเลิศอันดับ 2    จำนวน  1  รางวัล           5,000 บาท พร้อมถ้วยรางวัล

รางวัลชนะเลิศอันดับ 3    จำนวน  1  รางวัล           3,000 บาท พร้อมถ้วยรางวัล

รางวัลชมเชย                 จำนวน  2  รางวัลๆ ละ    1,500 บาท พร้อมถ้วยรางวัล

๕.          กำหนดการรับสมัคร   ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป จนถึงวันพุธที่ 17 เมษายน 2556  

ก่อนเวลา 12.00 น. 

๖.          สถานที่รับสมัคร        

นายณัฐวุฒิ  เครือฟู                    

ฝ่ายยุทธศาสตร์และประสานงานวิจัย สำนักวิจัยและส่งเสริมวิชาการการเกษตร

โทร 0-5387-5114, 081-9936621

Fax 0-5387-5118

Email: researchmju@mju.ac.th

Email: raemju@gmail.com

 

ชมภาพการประกวดฟ้อนเล็บล้านนาไทย ครั้งที่๒ เมื่อปีพ.ศ.๒๕๕๕ <<< คลิ๊ก...

ปรับปรุงข้อมูล : 1/1/2557 0:00:00     ที่มา : สำนักวิจัยและส่งเสริมวิชาการการเกษตร มหาวิทยาลัยแม่โจ้     จำนวนผู้เปิดอ่าน : 38712

กลุ่มข่าวสาร : อื่นๆ

ข่าวล่าสุด

คาราวานคลินิกเทคโนโลยี สร้างชุมชนแห่งการรู้สู่นวัตกรรม
มหาวิทยาลัยแม่โจ้นำทีมจัดคาราวานคลินิกเทคโนโลยี สร้างชุมชนแห่งการรู้สู่นวัตกรรม ที่อำเภอพร้าว เชียงใหม่ - 16-17 กรกฎาคม 2568** มหาวิทยาลัยแม่โจ้ผ่านคลินิกเทคโนโลยี จัดนิทรรศการโครงการ "คาราวานคลินิกเทคโนโลยีเพื่อสร้างชุมชนแห่งการรู้ สู่ชุมชนนวัตกรรม" ระหว่างวันที่ 16-17 กรกฎาคม 2568 ณ ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้ระดับอำเภอพร้าว อำเภอพร้าว จังหวัดเชียงใหม่ ผู้นำลงพื้นที่ การจัดงานครั้งสำคัญนี้ได้รับเกียรติจาก ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ว่าที่ร้อยเอก ดร. จิระชัย ยมเกิด ผู้ช่วยอธิการบดี มหาวิทยาลัยแม่โจ้ เป็นผู้นำทีมคลินิกเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ลงพื้นที่เพื่อนำเสนอองค์ความรู้และเทคโนโลยีสู่ชุมชน เวทีรวมพลังนวัตกรรมภาคเหนือ นิทรรศการครั้งนี้เป็นการรวมพลังและแสดงผลงานด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมจากมหาวิทยาลัยต่างๆ ในภาคเหนือ โดยมุ่งเน้นการนำเสนอเทคโนโลยีที่สามารถประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันและการพัฒนาชุมชนอย่างเป็นรูปธรรม นอกจากนี้ ยังมีการจัดแสดงผลงานการสร้างชุมชนแห่งการเรียนรู้จากศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้ระดับอำเภอทั้ง 25 อำเภอ ซึ่งเป็นการสะท้อนให้เห็นถึงความสำเร็จในการขยายผลการเรียนรู้สู่ชุมชนในวงกว้าง เป้าหมายเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน โครงการคาราวานคลินิกเทคโนโลยีมีเป้าหมายสำคัญในการส่งเสริมการดำเนินธุรกิจให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยการถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมให้กับชุมชนอย่างเป็นระบบการจัดงานในรูปแบบนี้ช่วยให้ชุมชนสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีที่ทันสมัยและเหมาะสม ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการยกระดับคุณภาพชีวิต การประกอบอาชีพ และการพัฒนาเศรษฐกิจชุมชนในระยะยาว สร้างเครือข่ายการเรียนรู้ที่เข้มแข็ง การเลือกจัดงาน ณ ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้ระดับอำเภอพร้าว เป็นการสร้างต้นแบบที่ดีในการกระจายความรู้สู่พื้นที่ห่างไกล และเป็นการเสริมสร้างเครือข่ายการเรียนรู้ระหว่างสถาบันการศึกษาและชุมชนท้องถิ่น ผลกระทบเชิงบวกต่อชุมชน โครงการคาราวานคลินิกเทคโนโลยีครั้งนี้คาดว่าจะส่งผลให้เกิดการพัฒนาที่ยั่งยืนในชุมชน โดยชุมชนจะได้รับองค์ความรู้และเทคโนโลยีที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการพัฒนาธุรกิจ การเกษตร และการดำรงชีวิต นอกจากนี้ ยังเป็นการสร้างความตระหนักถึงความสำคัญของการใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในการแก้ไขปัญหาและพัฒนาชุมชนให้เจริญก้าวหน้าอย่างมั่นคง ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดการสร้างชุมชนนวัตกรรมที่มุ่งเน้นการเรียนรู้และการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง.
17 กรกฎาคม 2568     |      13
สัมมนาทบทวนแผนปฏิบัติการประจำปี งบประมาณ 2568
สำนักวิจัยและส่งเสริมวิชาการการเกษตร มหาวิทยาลัยแม่โจ้ จัดสัมมนาเชิงปฏิบัติการ "การทบทวนแผนปฏิบัติการประจำปี งบประมาณ พ.ศ. 2568"เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2568 ณ ห้องประชุม 304 สำนักวิจัยฯ อาคารเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ผู้นำองค์กรเปิดงานอย่างเป็นทางการ การสัมมนาครั้งสำคัญนี้ได้รับเกียรติจาก ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ณัฐพล เลาห์รอดพันธุ์ ผู้อำนวยการสำนักวิจัยและส่งเสริมวิชาการการเกษตร เป็นประธานเปิดงาน พร้อมด้วยผู้บริหารและบุคลากรสำนักวิจัยฯ เข้าร่วมอย่างครบครัน วัตถุประสงค์เพื่อการพัฒนาองค์กร สัมมนาเชิงปฏิบัติการครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อทบทวนและปรับปรุงแผนปฏิบัติการประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ของสำนักวิจัยและส่งเสริมวิชาการการเกษตร ซึ่งเป็นกระบวนการสำคัญในการประเมินผลการดำเนินงานที่ผ่านมา และวางแผนกลยุทธ์สำหรับการขับเคลื่อนภารกิจในอนาคต การมีส่วนร่วมของทีมงาน การจัดสัมมนาในรูปแบบเชิงปฏิบัติการเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้บริหารและบุคลากรทุกระดับได้มีส่วนร่วมในการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น วิเคราะห์สถานการณ์ และร่วมกันหาแนวทางในการปรับปรุงแผนงานให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันและเป้าหมายขององค์กร สถานที่เอื้อต่อการเรียนรู้ การเลือกใช้ห้องประชุม 304 สำนักวิจัยฯ อาคารเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา เป็นสถานที่จัดงาน สะท้อนให้เห็นถึงความเหมาะสมและการเตรียมความพร้อมที่ดีสำหรับการจัดกิจกรรมประเภทนี้ โดยสร้างบรรยากาศที่เอื้อต่อการระดมสมองและการทำงานเป็นทีม ก้าวสำคัญสู่การพัฒนายั่งยืน การทบทวนแผนปฏิบัติการประจำปีถือเป็นกระบวนการบริหารจัดการที่สำคัญ ที่จะช่วยให้สำนักวิจัยและส่งเสริมวิชาการการเกษตรสามารถปรับตัวและพัฒนาการดำเนินงานให้มีประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของสังคมและการพัฒนาภาคการเกษตรของประเทศอย่างยั่งยืน สัมมนาครั้งนี้คาดว่าจะส่งผลให้เกิดแผนปฏิบัติการที่มีความชัดเจน เป็นรูปธรรม และสามารถนำไปปฏิบัติได้จริงในปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ต่อไป
30 มิถุนายน 2568     |      44
พิธีลงนามความร่วมมือกับ "ปลูกผักเพราะรักแม่" พัฒนาเกษตรอินทรีย์สู่อนาคต
ลงนามความร่วมมือกับ "ปลูกผักเพราะรักแม่" พัฒนาเกษตรอินทรีย์สู่อนาคตมหาวิทยาลัยแม่โจ้ก้าวสำคัญสู่การพัฒนาเกษตรอินทรีย์อย่างยั่งยืน เมื่อจัดพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจความร่วมมือทางวิชาการด้านเกษตรอินทรีย์กับบริษัท ปลูกผักเพราะรักแม่ จำกัด (มหาชน) เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2568 ณ ห้องประชุมสภามหาวิทยาลัยแม่โจ้ ชั้น 5 สำนักงานมหาวิทยาลัยผู้นำระดับสูงร่วมเป็นสักขีพยานการลงนามครั้งสำคัญนี้มี รองศาสตราจารย์ ดร.วีระพล ทองมา อธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่โจ้ เป็นประธานในพิธี และกล่าวต้อนรับคุณชัดชาญ เอกชัยพัฒนกุล ที่ปรึกษาคณะกรรมการบริหาร พร้อมทีมงานจากบริษัท ปลูกผักเพราะรักแม่ จำกัด (มหาชน) การจัดงานนี้ดำเนินการโดยสำนักวิจัยและส่งเสริมวิชาการการเกษตร มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของมหาวิทยาลัยในการส่งเสริมการเกษตรอินทรีย์เป็นรูปธรรมศูนย์เกษตรอินทรีย์แม่โจ้ - ฐานการเรียนรู้ที่แข็งแกร่งผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ทองเลียน บัวจูม ได้นำเสนอรายงานความเป็นมาของศูนย์เกษตรอินทรีย์มหาวิทยาลัยแม่โจ้ และแนวทางการร่วมมือทางวิชาการด้านเกษตรอินทรีย์กับบริษัท ปลูกผักเพราะรักแม่ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นการวางรากฐานสำคัญสำหรับความร่วมมือในอนาคตเป้าหมายการพัฒนาที่ครอบคลุมบันทึกความเข้าใจฉบับนี้มุ่งเน้นการสร้างความร่วมมือและเครือข่ายที่เข้มแข็งระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน โดยมีเป้าหมายหลักในการบูรณาการขับเคลื่อนพัฒนางานด้านเกษตรอินทรีย์ให้ก้อหน้าไปอย่างมีประสิทธิภาพ ความร่วมมือนี้จะส่งเสริมและสนับสนุนการวิจัยและพัฒนาในหลายมิติ ทั้งการเรียนการสอนด้านเกษตรอินทรีย์และการพัฒนาวัตถุดิบจากผลผลิตทางการเกษตรในระบบอินทรีย์ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการยกระดับมาตรฐานการผลิตและคุณภาพผลผลิตเกษตรอินทรีย์ของประเทศก้าวสำคัญสู่เกษตรกรรมยั่งยืนการลงนามความร่วมมือครั้งนี้นับเป็นก้าวสำคัญที่จะช่วยสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ ในวงการเกษตรอินทรีย์ และเป็นการเชื่อมโยงความรู้ทางวิชาการกับประสบการณ์ในเชิงพาณิชย์ เพื่อให้เกิดการพัฒนาที่ยั่งยืนและตอบสนองความต้องการของตลาดและผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน ความร่วมมือนี้คาดว่าจะเป็นต้นแบบสำคัญสำหรับการพัฒนาเกษตรอินทรีย์ในภาคเหนือ และช่วยยกระดับศักยภาพของเกษตรกรไทยให้สามารถแข่งขันในตลาดโลกได้อย่างมั่นคง.
30 มิถุนายน 2568     |      40