สำนักวิจัยและส่งเสริมวิชาการการเกษตร มหาวิทยาลัยแม่โจ้
The Office of Agricultural Research and Extension Maejo University

วันที่ 20 มกราคม 2564 รองศาสตราจารย์ ดร.อภินันท์ สุวรรณรักษ์ ผู้อำนวยการสำนักวิจัยฯ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ร่วมแถลงข่าว แม่โจ้ - โมเดล ลดหมอกควันไฟป่า การจัดการปัญหาหมอกควันไฟป่าอย่างครบวงจรและยั่งยืน ด้วยการบูรณาการด้วยองค์ความรู้ทั้งด้านเกษตร เทคโนโลยี นวัตกรรมการบริหารจัดการและประสานความร่วมมือกับนักวิชาการ นักวิจัยที่มีความรู้ความสามารถโดยมี รองศาสตราจารย์ ดร.วีระพล ทองมา อธิการบดี มหาวิทยาลัยแม่โจ้ เป็นประธานในพิธี นอกจากนี้ยังมีการจัดแสดงนิทรรศการ ผลงานวิจัย และนวัตกรรม ในการแก้ไขปัญหาหมอกควันไฟป่า อย่างครบวงจร ในงานดังกล่าว ณ ลานหน้าอาคารสำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยแม่โจ้ จังหวัดเชียงใหม่

มหาวิทยาลัยแม่โจ้ จัดการแถลงข่าวการจัดการปัญหาหมอกควันไฟป่าอย่างครบวงจรและยั่งยืน ด้วยการบูรณาการอย่างไร้รอยต่อด้วยองค์ความรู้ทั้งด้านเกษตร เทคโนโลยี นวัตกรรมการบริหารจัดการและประสานความร่วมมือกับนักวิชาการ นักวิจัยที่มีความรู้ความสามารถในการช่วยสนับสนุนการจัดการปัญหาหมอกควันไฟป่าได้อย่างครบวงจรและยั่งยืน โดยกระบวนการที่ครอบคลุมตั้งแต่ ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ ร่วมกับเจ้าของพื้นที่ เจ้าหน้าที่ภาครัฐ องค์การบริหารส่วนท้องถิ่น บนพื้นฐานของการเกษตรเพื่อยังชีพ เพื่ออยู่รอด และเพื่อยั่งยืนบนพื้นฐานของทรัพยากรและวัฒนธรรม เน้นการพึ่งพาตนเองซึ่งเป็นความถนัดพื้นฐานของมหาวิทยาลัยแม่โจ้ จากภูเขาสู่ทะเล เช่นโครงการแม่แจ่มโมเดล โครงการสารภีโมเดล โครงการสันทรายโมเดล โครงการความมั่นคงด้านอาหารโปรตีนบนพื้นที่สูง โครงการการเรียนรู้เพื่อชีวิตที่ดีงาม (อาหาร ยา ผ้า บ้าน) โครงการดิน น้ำ ป่า ปัญญา อาชีพ โครงการสร้างชุมชนเชิงดอนสร้างสรรค์ โครงการสภาลมหายใจ โครงการหมอต้นไม้ และอื่น ๆ
1. สร้างอาหาร ด้วยการเริ่มที่ต้นเหตุแห่งปัญหา
ด้วยองค์ความรู้ทางด้านการเกษตรเพื่อยังชีพ เพื่ออยู่รอด และเพื่อความยั่งยืน ด้วยเกษตรทฤษฎีใหม่ เกษตรอินทรีย์ เกษตรอัจฉริยะ เกษตรผสมผสาน การเลี้ยงสัตว์น้ำ การเลี้ยงหมู การเลี้ยงไก่ การเลี้ยงแพะ การปลูกป่าสร้างอาชีพ การจัดการน้ำ สร้างป่าเปียกด้วยบ่อน้ำกระจายความชุ่มชื้นในป่า การสำรวจติดตามจุดความร้อน การสำรวจติดตามสภาพพื้นที่เสี่ยงโดย UAV การให้ความรู้แก่ชุมชน สังคม โรงเรียน วัด ในเรื่องการจัดการปัญหาหมอกควันไฟป่า

2. สร้างอาชีพ ด้วยกิจกรรมการผลิตที่มากขึ้น และการแปรรูปด้วยเทคโนโลยีที่เหมาะสมนำไปสู่การขายที่ตรงกับความต้องการของตลาด
มุ่งเป็นการสร้างอาชีพ สร้างรายได้ ซึ่งเป็นแนวทางที่ทำให้ประชาชนนั้นพึ่งพาตนเองได้ด้วยฐานทรัพยากรของท้องถิ่นตนเอง
2.1 การผลิตทางด้านพืช เช่น การสร้างสร้างป่าสามอย่างประโยชน์สี่อย่าง เมล็ดพันธุ์พืชอินทรีย์ท้องถิ่น เห็ดป่าลดการเผา ภาชนะ วัสดุปลูกจากวัสดุเหลือทิ้งทางการเกษตร วัสดุปลูกอินทรีย์ ปุ๋ยหมัก สารบำรุงดินสูตรแม่โจ้
2.2 การผลิตทางด้านสัตว์ เช่น การเลี้ยงปลาด้วยฟางข้าว การเพาะขยายพันธุ์ปลาท้องถิ่น ธนาคารหมู ไก่ไข่พื้นเมือง ไก่เนื้อพื้นเมือง วัวเนื้อเลี้ยงด้วยอาหารข้นหมักเอง อาหารสัตว์อินทรีย์ รวมถึงโรงเชือดอินทรีย์
2.3 การลดพลังงานหรือการใช้พลังงานธรรมชาติ เช่นเทคโนโลยีพลังงานทดแทนลดควัน พลังงานแสงแดด พลังงานลม เป็นต้น
2.4 การแปรรูป การแปรรูปผลผลิตทางการเกษตรโดยใช้พลังงานทดแทน แปรรูปสินค้าที่เป็นที่ต้องการของตลาด และเพิ่มมูลค่า เช่นสมุนไพรตากแห้ง อบ หรือสกัดสาระสำคัญ
2.5 การสร้างการตลาดหลายช่องทาง สร้างการบริโภคในชุมชน สร้างความเชื่อมโยงการตลาดออนไลน์ สร้างอาชีพใหม่ การหาตลาดใหม่
2.6 การท่องเที่ยวเชิงนิเวศและเชิงอนุรักษ์

3. สร้างอาวุธ (ปัญญา) พัฒนาความรู้อย่างต่อเนื่องและสนับสนุนการทำงานของส่วนกลาง
มีการเรียนรู้และสะสมองค์ความรู้เพื่อสามารถแก้ปัญหาและยกระดับความรู้สู่การเพิ่มศักยภาพในการผลิต ส่งผลให้มีรายได้ดีและนำไปสู่การอยู่ร่วมกันกับสิ่งแวดล้อมที่ดี
3.1 ต่อปัญญา สนับสนุนชุมชนและโรงเรียนจำนวนมาก สร้างและพัฒนาชุมชนจนสามารถเลี้ยงตัวเองได้ ส่งเสริมเรื่องการศึกษา
3.2 ต่อสิ่งแวดล้อม เช่น เครื่องกรองอากาศอย่างง่าย ราคาถูก ผลิตเองได้ พื้นที่ป่าปอด ต้นไม้ฟอกอากาศ การจัดการขยะตามแนวทาง Zero Waste การผลิตไบโอชาร์ การผลิตน้ำส้มควันไม้ การตรวจวัดและเตือนภัยฝุ่นละอองในอากาศ การสนับสนุนชี้เป้าจุดเกิดหมอกควันไฟป่าให้กับเจ้าหน้าที่โดยใช้ UAV อาสาสมัครป้องกันไฟป่า ลด GHG Emission มากกว่า 10,000 kg CO2-eq/ปี)
3.3 ต่อพันธมิตร มีหน่วยงานพันธมิตรหลากหลายจากภาครัฐและเอกชนกว่า 20 หน่วยงาน เช่น บริษัทเชียงใหม่วิสาหกิจเพื่อสังคม มณฑลทหารบกที่ 3 โรงเรียน วัด มหาวิทยาลัย ชุมชนกว่า 100 ชุมชน กลุ่มเยาวชนในโรงเรียนลดหมอกควัน สร้างรายได้และลดรายจ่ายในครัวเรือน.


การดำเนินการแบบองค์รวมที่มาจากพื้นฐานของทรัพยากรในท้องถิ่นด้วยการพัฒนาและยกระดับให้ทุกอย่างมีคุณค่า ร่วมกันแก้ปัญหาที่ปากท้องด้วยการสร้างความมั่นคงด้านอาหาร เมื่อเข้าใจผลิตได้มากแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่าเป็นการสร้างอาชีพ จนกระทั่งชำนาญนำไปสู่การสร้างสมประสบการณ์เป็นองค์ความรู้ที่นำมาใช้เพื่อพัฒนาตอบโจทย์เศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน โดยชุมชนเป็นรากฐานด้วยเศรษฐกิจหมุนเวียนแบบ BCG นำไปสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน (SDG) เป็นวิธีการที่แม่โจ้ได้ดำเนินการมาโดยตลอดและต่อไป “แม่โจ้โมเดล: แก้ปัญหาหมอกควันไฟป่าด้วยการบูรณาการศาสตร์ต่าง ๆ ของมหาวิทยาลัย สร้างอาหาร อาชีพ และอาวุธ (ปัญญา) ให้มีสุขภาพที่ดี ไม่ทิ้งภูมิปัญญาและวัฒนธรรม”

ปรับปรุงข้อมูล : 20/1/2564 11:55:16     ที่มา : สำนักวิจัยและส่งเสริมวิชาการการเกษตร มหาวิทยาลัยแม่โจ้     จำนวนผู้เปิดอ่าน : 902

กลุ่มข่าวสาร : ข่าวประชาสัมพันธ์

ข่าวล่าสุด

สัมมนาทบทวนแผนปฏิบัติการประจำปี งบประมาณ 2568
สำนักวิจัยและส่งเสริมวิชาการการเกษตร มหาวิทยาลัยแม่โจ้ จัดสัมมนาเชิงปฏิบัติการ "การทบทวนแผนปฏิบัติการประจำปี งบประมาณ พ.ศ. 2568"เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2568 ณ ห้องประชุม 304 สำนักวิจัยฯ อาคารเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ผู้นำองค์กรเปิดงานอย่างเป็นทางการ การสัมมนาครั้งสำคัญนี้ได้รับเกียรติจาก ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ณัฐพล เลาห์รอดพันธุ์ ผู้อำนวยการสำนักวิจัยและส่งเสริมวิชาการการเกษตร เป็นประธานเปิดงาน พร้อมด้วยผู้บริหารและบุคลากรสำนักวิจัยฯ เข้าร่วมอย่างครบครัน วัตถุประสงค์เพื่อการพัฒนาองค์กร สัมมนาเชิงปฏิบัติการครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อทบทวนและปรับปรุงแผนปฏิบัติการประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ของสำนักวิจัยและส่งเสริมวิชาการการเกษตร ซึ่งเป็นกระบวนการสำคัญในการประเมินผลการดำเนินงานที่ผ่านมา และวางแผนกลยุทธ์สำหรับการขับเคลื่อนภารกิจในอนาคต การมีส่วนร่วมของทีมงาน การจัดสัมมนาในรูปแบบเชิงปฏิบัติการเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้บริหารและบุคลากรทุกระดับได้มีส่วนร่วมในการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น วิเคราะห์สถานการณ์ และร่วมกันหาแนวทางในการปรับปรุงแผนงานให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันและเป้าหมายขององค์กร สถานที่เอื้อต่อการเรียนรู้ การเลือกใช้ห้องประชุม 304 สำนักวิจัยฯ อาคารเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา เป็นสถานที่จัดงาน สะท้อนให้เห็นถึงความเหมาะสมและการเตรียมความพร้อมที่ดีสำหรับการจัดกิจกรรมประเภทนี้ โดยสร้างบรรยากาศที่เอื้อต่อการระดมสมองและการทำงานเป็นทีม ก้าวสำคัญสู่การพัฒนายั่งยืน การทบทวนแผนปฏิบัติการประจำปีถือเป็นกระบวนการบริหารจัดการที่สำคัญ ที่จะช่วยให้สำนักวิจัยและส่งเสริมวิชาการการเกษตรสามารถปรับตัวและพัฒนาการดำเนินงานให้มีประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของสังคมและการพัฒนาภาคการเกษตรของประเทศอย่างยั่งยืน สัมมนาครั้งนี้คาดว่าจะส่งผลให้เกิดแผนปฏิบัติการที่มีความชัดเจน เป็นรูปธรรม และสามารถนำไปปฏิบัติได้จริงในปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ต่อไป
30 มิถุนายน 2568     |      20
พิธีลงนามความร่วมมือกับ "ปลูกผักเพราะรักแม่" พัฒนาเกษตรอินทรีย์สู่อนาคต
ลงนามความร่วมมือกับ "ปลูกผักเพราะรักแม่" พัฒนาเกษตรอินทรีย์สู่อนาคตมหาวิทยาลัยแม่โจ้ก้าวสำคัญสู่การพัฒนาเกษตรอินทรีย์อย่างยั่งยืน เมื่อจัดพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจความร่วมมือทางวิชาการด้านเกษตรอินทรีย์กับบริษัท ปลูกผักเพราะรักแม่ จำกัด (มหาชน) เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2568 ณ ห้องประชุมสภามหาวิทยาลัยแม่โจ้ ชั้น 5 สำนักงานมหาวิทยาลัยผู้นำระดับสูงร่วมเป็นสักขีพยานการลงนามครั้งสำคัญนี้มี รองศาสตราจารย์ ดร.วีระพล ทองมา อธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่โจ้ เป็นประธานในพิธี และกล่าวต้อนรับคุณชัดชาญ เอกชัยพัฒนกุล ที่ปรึกษาคณะกรรมการบริหาร พร้อมทีมงานจากบริษัท ปลูกผักเพราะรักแม่ จำกัด (มหาชน) การจัดงานนี้ดำเนินการโดยสำนักวิจัยและส่งเสริมวิชาการการเกษตร มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของมหาวิทยาลัยในการส่งเสริมการเกษตรอินทรีย์เป็นรูปธรรมศูนย์เกษตรอินทรีย์แม่โจ้ - ฐานการเรียนรู้ที่แข็งแกร่งผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ทองเลียน บัวจูม ได้นำเสนอรายงานความเป็นมาของศูนย์เกษตรอินทรีย์มหาวิทยาลัยแม่โจ้ และแนวทางการร่วมมือทางวิชาการด้านเกษตรอินทรีย์กับบริษัท ปลูกผักเพราะรักแม่ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นการวางรากฐานสำคัญสำหรับความร่วมมือในอนาคตเป้าหมายการพัฒนาที่ครอบคลุมบันทึกความเข้าใจฉบับนี้มุ่งเน้นการสร้างความร่วมมือและเครือข่ายที่เข้มแข็งระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน โดยมีเป้าหมายหลักในการบูรณาการขับเคลื่อนพัฒนางานด้านเกษตรอินทรีย์ให้ก้อหน้าไปอย่างมีประสิทธิภาพ ความร่วมมือนี้จะส่งเสริมและสนับสนุนการวิจัยและพัฒนาในหลายมิติ ทั้งการเรียนการสอนด้านเกษตรอินทรีย์และการพัฒนาวัตถุดิบจากผลผลิตทางการเกษตรในระบบอินทรีย์ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการยกระดับมาตรฐานการผลิตและคุณภาพผลผลิตเกษตรอินทรีย์ของประเทศก้าวสำคัญสู่เกษตรกรรมยั่งยืนการลงนามความร่วมมือครั้งนี้นับเป็นก้าวสำคัญที่จะช่วยสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ ในวงการเกษตรอินทรีย์ และเป็นการเชื่อมโยงความรู้ทางวิชาการกับประสบการณ์ในเชิงพาณิชย์ เพื่อให้เกิดการพัฒนาที่ยั่งยืนและตอบสนองความต้องการของตลาดและผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน ความร่วมมือนี้คาดว่าจะเป็นต้นแบบสำคัญสำหรับการพัฒนาเกษตรอินทรีย์ในภาคเหนือ และช่วยยกระดับศักยภาพของเกษตรกรไทยให้สามารถแข่งขันในตลาดโลกได้อย่างมั่นคง.
30 มิถุนายน 2568     |      11
การประชุมเครือข่ายมหาวิทยาลัย เหนือ-ใต้ The 2nd NSU NET
เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2568 ผู้อำนวยการสำนักวิจัยฯ (ผศ.ดร.ณัฐพล เลาห์รอดพันธุ์) พร้อมด้วยผู้อำนวยการสำนักบริหารและพัฒนาวิชาการ (ผศ.ดร.ปรีดา นาเทเวศ) และ รองคณบดีวิทยาลัยนานาชาติ (อ.ดร.วินิตรา ลีละพัฒนา) เข้าร่วมประชุม "เครือข่ายมหาวิทยาลัย เหนือ-ใต้" ครั้งที่ 2 (The 2nd NSU NET) ณ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (หาดใหญ่) ในงานมีการบรรยายพิเศษ "การอุดมศึกษาไทยกับบริบทโลก" โดย ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รวมถึงการเสวนาในหัวข้อ "Growing Together: from reginal strengths to a sustainable global future" และ การประชุมกลุ่มย่อยเพื่อสร้างความร่วมมือกันในด้านวิจัย วิชาการ และ ความเป็นนานาชาติ ระหว่างกลุ่มมหาวิทยาลัยเครือข่าย 17 แห่งTRANSLATE with xEnglishArabicHebrewPolishBulgarianHindiPortugueseCatalanHmong DawRomanianChinese SimplifiedHungarianRussianChinese TraditionalIndonesianSlovakCzechItalianSlovenianDanishJapaneseSpanishDutchKlingonSwedishEnglishKoreanThaiEstonianLatvianTurkishFinnishLithuanianUkrainianFrenchMalayUrduGermanMalteseVietnameseGreekNorwegianWelshHaitian CreolePersianTRANSLATE with COPY THE URL BELOW BackEMBED THE SNIPPET BELOW IN YOUR SITEsetTimeout(function(){var s=document.createElement('script');s.type='text/javascript';s.charset='UTF-8';s.src=((location && location.href && location.href.indexOf('https') == 0)?'https://ssl.microsofttranslator.com':'http://www.microsofttranslator.com')+'/ajax/v3/WidgetV3.ashx?siteData=ueOIGRSKkd965FeEGM5JtQ**&ctf=true&ui=true&settings=manual&from=en';var p=document.getElementsByTagName('head')[0]||document.documentElement;p.insertBefore(s,p.firstChild); },0);" onclick="this.select()" />Enable collaborative features and customize widget: Bing Webmaster PortalBackORIGINAL: "; langMenu.appendChild(origLangDiv); LanguageMenu.Init('LanguageMenu', LanguageMenu_keys, LanguageMenu_values, LanguageMenu_callback, LanguageMenu_popupid); window["LanguageMenu"] = LanguageMenu; clearInterval(intervalId); } }, 1); >
23 มิถุนายน 2568     |      35
เสวนาการจัดทำแผนยุทธศาสตร์งานวิจัยและนวัตกรรม พ.ศ.2568-2572
เมื่อวันที่ 16  มิถุนายน 2568 สำนักวิจัยฯ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ จัดเสวนา เรื่อง “การจัดทำแผนยุทธศาสตร์งานวิจัยและนวัตกรรม ปี พ.ศ. 2568-2572” โดยมี ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.สุริยจรัส เตชะตันมีนสกุล รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่โจ้ เป็นประธาน ณ ห้องประชุม 304 ชั้น 3 อาคารเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา มหาวิทยาลัยแม่โจ้ นำเสนอร่าง แผนยุทธศาสตร์งานวิจัยและนวัตกรรม ปี พ.ศ. 2568-2572 เป้าหมาย และตัวชี้วัดสำคัญ โดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.สุบรรณ ฝอยกลาง  รองผู้อำนวยการสำนักวิจัยฯ ฝ่ายวิจัย ผู้เข้าร่วมเสวนา วิพากษ์ ร่าง แผนยุทธศาสตร์งานวิจัยและนวัตกรรม ปี พ.ศ. 2568-2572 เป้าหมาย และตัวชี้วัดสำคัญ พร้อมกำหนดแผนงานวิจัย สำหรับงบประมาณเพื่อสนับสนุนงานมูลฐาน (FF) ประจำปี พ.ศ. 2570  วัตถุประสงค์เพื่อร่วมจัดทำแผนยุทธศาสตร์งานวิจัยและนวัตกรรม ปี พ.ศ. 2568-2572 และพัฒนาแผนงานวิจัยให้สอดคล้องกับนโยบาย เป้าหมายและทิศทางของมหาวิทยาลัย สำหรับการเสนอของบประมาณ เพื่อสนับสนุนงานมูลฐาน (Fundamental Fund: FF) และงบประมาณโครงการพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (Science and Technology Development Fund: ST)
18 มิถุนายน 2568     |      33